Hoofdstuk 9
คำประสม Samenstelling
คำประสม samenstelling ซ้าเมิ่นสเต็ลลิ่ง เกิดจากการนำคำนามมาเขียนติดกัน สร้างเป็น คำใหม่ ที่มีความหมายอ้างอิงคำเดิม คำส่วนใหญ่ที่เราจะเรียนในระดับสูงขึ้นไปจะเป็นคำประเภท นี้ การเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำ het, de ให้ขึ้นใจ เพราะเรา จะใช้มันเป็นหลักในการสร้างคำประสม และกลุ่มคำเหล่านี้ต่อไปอีกในอนาคตค่ะ
คำประสมมีด้วยกันหลายประเภทโดยมีวิธีการผันต่างกันดังนี้
เขียนติดกันได้เลย สองคำ แบบนี้มักใช้กับคำนามที่เป็นนามธรรม หรือมากหรือน้อย ไม่สะดวกต่อการนับ
winkelcentrum มาจาก winkel + centrum ย่านร้านตลาด เป็น het ตาม centrum
dagboek มาจาก dag + boek สมุดบันทึกรายวัน, ไดอารี่ เป็น het ตาม boek
ผันโดยเติม + n ระหว่างคำสองคำ บางครั้งก็ใช้ -en เพื่อให้การออกเสียงคำประสม ง่ายขึ้น คำที่อยู่ข้างหน้ามักเป็นคำที่ไม่ใช่คำนาม
goedenavond มาจาก goed + avond สวัสดีตอนเย็น
meerendeels มาจาก meer + deel ส่วนใหญ่
คำหน้าเป็นคำนามพหูพจน์อยู่แล้ว
boekenkast มาจาก boeken + kast ชั้นหนังสือ เป็น de ตาม kast
studentenhuis มาจาก studenten + huis หอพักนักเรียน เป็น het ตาม huis
ganzenvoet มาจาก ganzen + voet ตีนห่าน (อาหาร) เป็น de ตาม voet
woordenboek มาจาก woorden + boek พจนานุกรม เป็น het ตาม boek
เติม e หรือตัวอักษรสุดท้ายอีกครั้ง + e สำหรับตัวสะกดที่เป็นคำตาย (เสียงสั้น ห้วน)
koninginnedag มาจาก koningin + dag วันพระราชินี เป็น de ตาม dag
paardebloem มาจาก paard + bloem ดอกไม้ที่ขึ้นเองในทุ่งสีเหลือง มีเมล็ดเป็นขนนุ่มทรงกลม เด็กๆชอบนำมาเป่าเล่น เป็น de ตาม bloem (คำพวกนี้ต้องคอยเช็คจาก het groene boekje)
เติม +s ระหว่างสองคำ
gereedschapskist มาจาก gereedschap + kist กล่องใส่เครื่องมือ เป็น de ตาม kist
keizerskronen มาจาก keizer + kronen ดอกมงกุฏจักรพรรดิ์ เป็น de ตาม kronen
คำประสม นิดที่เชื่อมด้วยตัว s นี้ มักเกิดจากคำนามสองคำ ที่คำหน้าบ่งบอก ลักษณะหรือ ขยายคำหลังโดยเฉพาะไป
การแปลคำประสม และการเลือกใช้คำนำหน้านาม
คำประสมนั้น มีวิธีการแปลแบบนี้ค่ะ หากว่าเราไปเจอคำที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มีคำที่พอจะ เดาได้อยู่ จะได้พอเข้าใจความหมาย ตามสูตรง่ายๆ คือแปลจากหลังมาหน้า ดังนี้เลยค่ะ มาดู พร้อมตัวอย่าง
de wethouder มีสองคำคือ de wet เว็ท - กฏหมาย และ de houder เฮาเด้อร์ - ผู้ดูแล ผู้เป็นเจ้าของ คำนี้ตามคำแปลในพจนานุกรมแล้ว เทียบกับตำแหน่งที่เรารู้จักในเมืองไทย คือ ผู้ดูแลกฏหมาย (เทศมนตรี นั่นเอง)
het politiebureau มีสองคำ คือ de politie โปลิตซี่ - ตำรวจ และ het bureau บือโร - สำนักงาน ก็แปลได้ว่า สถานีตำรวจ
จากตัวอย่างที่สอง จะเห็นได้ว่า การเลือกใช้คำนำหน้านามนั้น ให้เลือกใช้ตามคำนามหลังสุด (ในกรณีที่มีการผสมหลายคำนาม) เพราะมันเป็นคำนามหลัก ซึ่งแม้แต่การแปล เราก็ต้องแปล กลับหลัง มาดูตัวอย่างต่อไปค่ะ
de kinderspeelhoek มีสามคำคือ het kind คินท์ - เด็กๆ speel เป็น stam ของ กริยา spelen สเปเลิ่น - เล่น และ de hoek ฮุค - มุม แปลรวมกันหมดได้เป็น มุมที่เล่นของเด็ก (สนามเด็กเล่น) คำนี้เป็น de เพราะอิงคำสุดท้าย คือ de hoek
het schoonmaakbedrijf อีกหนึ่งตัวอย่างที่ใช้คำกริยามาผสม schoonmaken ชโคนม๊ากเกิ้น - ทำความสะอาด het bedrijf เบ่อะเดริ้ยฟ์ - บริษัท แปลออกมาเป็น บริษัทรับทำ ความสะอาด คำนี้ก็ใช้ het ไปตามคำสุดท้าย
อีกตัวอย่างหนึ่งสำหรับคำยาวๆ แปลกๆ นั้นเราจะพบได้บ่อยในชื่อเฉพาะ โดยเฉพาะชื่อเรียก สัตว์ หรือสิ่งที่มีรายละเอียดซับซ้อน
de witwangdwergooruil คำนี้อาจจะยากหน่อย ประกอบไปด้วย wit วิท - ขาว , de wang วัง - แก้ม , dwerg ดแว๊ร์ค - แคระ, oor ออร์ - หู และ uil เอิวล์ - นกฮูก การแปลคำยาวๆ เช่น นี้เราแปลเหมือนเดิมจากหลังไปหน้า เป็น นกฮูกพันธุ์หูเล็กแก้มขาว
อีกหนึ่งตัวอย่างคำยาวๆ เอามาหัดแปลกันสนุกๆ ค่ะ
kindercarnavalsoptochtvoorbereidingswerkzaamheden แปลจากหลังมาหน้าก่อน
werkzaamheden เป็นรูปพหูพจน์ มาจาก de werkzaamheid แว๊ร์คซามเฮเดิ้น -การปฏิบัติงาน
de voorbereiding ฟอร์เบ่อะเริยดิ้ง - การจัดเตรียม
optocht อ๊บท็อคท์ - การเดินทาง
de carnaval คานาฟัล - เทศกาลเดินพาเหรด
Kinder มาจาก het kind- de kinderen เด็กๆ
แปลได้ว่า การปฏิบัติงานจัดเตรียมการเดินทางเทศกาลพาเหรดของเด็กๆ