ที่พักอาศัย เช่าบ้าน / ซื้อบ้าน ในเนเธอร์แลนด์
ที่อยู่อาศัย Woning ในเนเธอร์แลนด์แบ่งเป็นหลายประเภทด้วยกัน
แล้วแต่การแยกประเภท บ้านคุณเป็นที่อยู่อาศัยแบบไหนคะ มาดูกัน
อย่างแรกเรามาดูการจำแนกประเภทที่อยู่อาศัยตามสไตล์การสร้าง
- บ้านเดี่ยว vrijstaande huizen มีอาณาบริเวณของตัวเอง (บ้านแบบนี้มีราคาแพง
อาจเรียกได้อีกชื่อว่า villa)
- บ้านสองหรือ หลายหลังที่สร้างติดกัน มีหลังคาเดียวกัน หรือ 'twee onder één
kap'
- ตึกแถว หรือ rijtjeshuis
ถ้ามาดูกันตามการแบ่งบ้านด้วยชั้น จะแบ่งออกเป็น
- บ้านที่อยู่ชั้นพื้นดินติดถนน (และมักมีสวน) benedenwoning
- บ้านที่อยู่ชั้นสูงขึ้นไป ของตัวตึก
อาจใช้ประตูบ้านเดียวกันกะบ้านที่อยู่ข้างล่าง หรือแยกประตู bovenwoning
- แฟลต หรือ อพาร์ทเมนต์ เป็น bovenwoning ระดับที่หรูหราขึ้นมาอีกหน่อย
คือแยกกันออกเป็นห้องๆ ตามแต่ละชั้น มีประตุใหญ่ มีล็อบบี้ และอาจมีลิฟท์
แล้วแต่ความสูงของตึก มักจะมีค่าบริการส่วนกลางเรียกเก็บเป็นรายเดือน
- บ้านหัวมุม ซึ่งจะมีที่รอบๆ มากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ และมีแสงสว่างเพิ่มมากขึ้นจากหน้าต่างอีกด้าน hoekwoning
ที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ
- bungalow บังกาโล หรือบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ส่วนใหญ่มักพบตามเมืองตากอากาศ
- herenhuis หรือบ้านเก่าสไตล์โอ่โถงมีหลายชั้น และมีเพดานสูง
- doorzonwoning บ้านยุคใหม่ๆ เป็นบ้านตามยาวเหมือนตึกแถวเมืองไทย
มองจากห้องนั่งเล่น จะเห็นทะลุไปจนถึงห้องครัว หรือหลังบ้าน
ซึ่งบ้านส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้
- บ้านสำหรับคนเนเธอร์แลนด์จะหมายถึง eensgezinswoningen
(ที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัว - คู่สามีภรรยา หรือคู่รัก และลูก(ถ้่ามี)
- สำหรับนักเรียน หอพักจะเรียกว่า studentenflat หรือ studentenhuis
แต่ละคนมีห้องส่วนตัว แต่ห้องน้ำห้องอาบน้ำและห้องครัวอาจจะต้องใช้ร่วมกัน
- บ้านพักคนชรา bejaardentehuis มีพื้นที่ใช้สอยร่วมกันเหมือนหอพักนักเรียน
แต่มีห้องสำหรับทำกิจกรรม ห้องอาหาร และมีเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเป็นพิเศษ
- บ้านพักตากอากาศ เรียกว่า vakantiehuisje
หากว่าแบ่งตามความเป็นเจ้าของ บ้านก็จะแบ่งออกได้เป็น
- บ้านเช่า huurhuis / huurwoning
- บ้านที่ซื้อขาย koophuis / koopwoning
บ้านเช่า Huurhuis / Huurwoning
บ้านที่ให้เช่านั้น มีหลายแบบได้แก่
- บ้านของ gemeente บ้านแบบนี้ราคาประหยัด สาธารณูปโภคครบครัน
แต่มีข้อเสียคือทุกคนอยากจะได้ คุณจะต้องแย่งกับคนอื่นอีกหลายคน
- บ้านที่เจ้าของมอบหมายให้บริษัทบ้านเช่าดูแล ชื่อที่คุ้นหูเช่น Vestia,
woonbron, Woning bedrijf หรือ Direct wonen
- เจ้าของบ้านเปิดให้เช่าเอง บ้านแบบนี้
บ่อยครั้งคุณจะต้องจ่ายค่าเช่าบ้านแพงโดยไม่จำเป็น และอาจต้องแชร์ห้องครัว ห้องน้ำ
และส่วนอื่นๆของบ้านกับเจ้าของบ้าน
ในประเทศนี้การหาที่อยู่อาศัยไม่ใช่เรื่องง่าย
หนุ่มสาวที่เตรียมตัวจะออกจากบ้านเพื่อไปเรียนต่อ หางานทำ หรือใช้ชีวิตของตัวเอง
ต้องไปลงชื่อไว้กับทาง gemeente เพื่อรอคิวในการได้บ้านหรือห้องเช่า
การจะหาที่อยู่แบบฉับพลันทันด่วนนั้น
ไม่แคล้วต้องเป็นการโดนกดขี่ราคาค่าเช่าที่แพงสุดกู่จากเจ้าของบ้านโดยตรง
การรอคิวในการขอบ้านเช่านั้น เรียกว่าการขอ woonpas
ซึ่งเราติดต่อได้ที่อำเภอ gemeente ที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน
หรือบริษัทจัดหาบ้านเ่ช่า ซั่งแต่ละบริษัท แต่ละองค์กร
ก็อาจจะมีระบบที่ต่างกันออกไป ส่วนใหญ่แล้วจะเหมือนกันคือ โว้นพาส
จะเป็นชุดหมายเลข โดยเราต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวเก็บไว้
ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินว่าเราจะได้บ้านหรือไม่
วิธีการคล้ายๆกับการสอบเอนทรานซ์คือ
ผู้ที่หาบ้านสามารถเลือกบ้านในละแวกที่ตัวเองต้องการ ขนาดของบ้าน
และรายละเอียดจะมีแจ้งไว้ เมื่อเราแจ้งชื่อขอจองบ้าน ชื่อของเรา(ใน woonpas)
จะเข้าไปจัดเรียงคิวแข่งกับบุคคลอื่นๆ ทีี่อยากได้บ้านหลังเดียวกันนี้
หากว่าจากประวัติข้อมูล เขามีสิทธิและความจำเป็นก่อน ก็จะได้อันดับแรกๆ มาก่อน
โดยส่วนใหญ่ คนที่ woonpas มีอายุหลายปี จะมีสิทธิได้บ้านก่อน ปัจจุบันมีระบบการจัดสรรโดยแบ่งผู้ขอเช่าเป็น Starter คือหนุ่มสาวที่จะแยกบ้านออกจากพ่อแม่ หรือคนต่างชาติที่เพิ่งย้ายมา และ Doorstomer คนที่จะย้ายบ้านเช่าจากหลังหนึ่งไปสู่อีกหลังหนึ่ง
หากว่ารายชื่อคุณติดอันดับหนึ่งในสาม(หรือบางครั้งเรียกไปจนถึงอันดับที่สิบ)
ทางบริษัทเจ้าของบ้านเช่าหรือบริษัทที่จัดให้เช่าบ้าน
ก็จะออกจดหมายเชิญให้คุณมาดูบ้านในวันเปิดบ้าน หากว่ารายที่หนึ่งและสอง
ไม่ประสงค์จะเช่า บุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับถัดๆไป ก็มีสิทธิที่จะตอบตกลง
แล้วก็นัดวันทำสัญญาเช่าบ้านกันต่อไปได้ การเลือกบ้านที่ถูกใจ
ทั้งขนาดและย่านที่อยู่อาศัยนั้นอาจใช้เวลากันเป็นปีๆ
นักเรียนไทยที่มาเรียนในเนเธอร์แลนด์
จึงควรอย่างยิ่งที่จะใช้บริการหอพักหรือบ้านเช่าที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาให้
หอพักพวกนี้อาจมีราคาแพง แต่ได้รับการตรวจเช็คและเลือกสถานที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างน้อยคุณมั่นใจได้ว่าจะไม่โดนเจ้าของบ้านเช่าขูดรีดจนเกินไป
Huurtoeslag เงินช่วยค่าเช่าบ้าน
นับจากวันที่ 1 มกราคม 2006
รัฐบาลได้เปลี่ยนระบบการให้เงินช่วยค่าเช่าบ้านสำหรับผู้ที่รายได้้น้อย
huursubsidie จากกระทรวง VROM มาเป็นระบบ huurtoeslag ขึ้นตรงกับกรมสรรพากรแทน
ทุกคนที่เคยได้ค่าช่วยค่าเช่าบ้านนี้
ยังมีสิทธิในเงินช่วยเหลือค่าเช่าบ้านตัวใหม่เหมือนเดิม
การจะขอเงินช่วยค่าเช่าบ้านนี้
ทางรัฐบาลจะตรวจเช็คจากรายได้ต่อปีของผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเดียวกัน
(ซึ่งไม่จำเป็นต้อเป็นคู่สมรสกันแต่อย่างใด) เพื่อนร่วมหอพัก
หรือครอบครัวที่ต่างกันต่างทำงานก็มีสิทธิในเงินนี้เช่นเดียวกัน
กลุ่มคนที่อยู่ภายใต้บ้านหลังหนึ่งจะมีสิทธิในเงินช่วยนี้ก็ต่อเมื่อ
- ราคาค่าเช่าบ้านไม่สุงและไม่ต่ำไปกว่าที่รัฐกำหนด
สำหรับรายละเอียดส่วนนี้ดูที่เวบไซต์ของแผนกภาษีนะคะ
- เป็นบ้านที่เช่าตรงจากบริษัทบ้านเช่า หรือเจ้าของบ้าน
ที่มิใช่การแบ่งห้องให้เช่า
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนเดียวกัน มีรายได้รวมต่อปี
ไม่สูงไปกว่าเกณท์การให้เงินช่วย ถ้าอยู่อาศัยคนเดียว รายได้ต่อปีไม่เกิน 25000
ยูโร (ถ้าอยู่กันสองคน ไม่เกิน 40000 ยูโรต่อปี)
รายละเอียดสำหรับการขอ Huurtoeslag คลิกที่นี่
ซื้อบ้าน Koophuis
การซื้อบ้านในเนเธอร์แลนด์ ไม่สามารถทำได้ด้วยเงินสดก้อนเดียวในราคานั้น
(ถึงแมุ้คุณจะถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่มาก็ตาม)
เนื่องจากผู้ขายบ้านส่วนใหญ่ได้ิคิดรวมดอกเบี้ยไว้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับการผ่อนในอนาคต ถ้าคุณต้องการจ่ายเงินสดในครั้งเดียว
จะมีเบี้ยที่เรียกว่าเบี้ยปรับ เพิ่มเข้ามาในราคาของค่าบ้าน ทำให้แพงขึ้นไปอีก
คนหนุ่มสาวที่จะซื้อบ้าน สามารถผ่อนบ้านได้โดยผ่านสำนักงานที่เรียกว่า Hypotheek
ที่จะให้คำปรีกษาและกู้ยืมเงิน ในการจำนองบ้าน
ฮิบโปเถคจะเป็นผู้คำนวณว่าจากรายได้และเงินเดือนต่อปีของคุณ
คุณสามารถจะซื้อบ้านในราคาสูงสุดเท่าใด และใช้เวลาผ่อนกี่ปี
ในราคากี่ร้อยยูโรต่อเดือน คู่รักหรือสามีภรรยาที่ทำงานด้วยกันทั้งคู่
จะมีข้อได้เปรียบ เพราะทั้งสองฝ่ายมีเงินเดือน จึงสามารถเลือกบ้านที่สะดวกสบาย
และมีขนาดใหญ่ขึ้นได้ โดยทั้งสองช่วยกันผ่อนค่าซื้อบ้าน
เมื่อคุณจะซื้อบ้าน ร้อยทั้งร้อยมักจะืซื้อบ้านผ่านนายหน้่า makelaar
นายหน้าจะมีหน้าที่จัดการดูแลทั้งในส่วนของความเรียบร้อยของตัวบ้าน ราคา
การจัดการเรื่องภาษีการขายบ้านและอื่นๆ นายหน้าเหล่านี้
มักจะมีเวบไซต์ทางอินเตอร์เน็ท รวมบ้านหลายๆหลังที่เจ้าของบ้านต้องการประกาศขาย
เวบไซต์ที่ไว้วางใจได้ สำหรับการเลือกซื้อบ้าน
Hypotheek
คุณจะซื้อบ้านได้ก็ต่อเมื่อคุณมี hypotheek ค้ำประกัน Hypotheek
เป็นรูปแบบหนึ่งของการให้กู้เงิน หรือเรียกง่ายๆว่าการจำนองบ้านนั่นเอง
โดยผุ้ที่ต้องการซื้อบ้านสามารถจะเป็นเจ้าของบ้าน โดยแต่ละเดือนต้องผ่อนค่าบ้าน
(เงินต้น) พร้อมดอกเบี้ยคืนให้แก่ hypotheek ในระยะเวลาที่ได้ตกลงกันไว้
ทั้งนี้คุณจะมีงบประมาณในการซื้อบ้านที่ราคาเท่าไหร่นั้น ทาง Hypotheek
จะคำนวณจากรายได้รวมต่อปีของผู้ที่จะร่วมกันผ่อนบ้าน (หากว่าทั้งสองคนมีงานทำ)
แล้วคำนวณออกมาเป็นราคาบ้านสูงสุดที่คุณสามารถซื้อได้
การผ่อนบ้านส่วนใหญ่จะกำหนดเวลาไว้ที่ 30 ปี ส่วนดอกเบี้ยเองนั้น
มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ระยะเวลาที่ดอกเบี้ยไม่มีการเปลียนแปลงนั้นเรียกว่า
rentevaste periode อาจจะเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก (คือเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกเดือน)
หรือ ไม่เปลี่ยนแปลงเลย จนครบระยะเวลาผ่อน
ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาที่ดอกเบี้ยไม่เคลื่อนที่อยู่แค่สิบปี
การผ่อนบ้านไม่ใช่สักแต่ว่าส่งเงินให้ Hypotheek ทุกเดือนแล้วก็เสร็จกันไป
ทุกวันนี้ ฮิบโปเถคยังมีหลากหลายรุปแบบในการเลือกชำระเงิน
ซึ่งแต่ละบ้านสามารถเลือกได้ตามความสะดวกและกำลังทรัพย์ของตัวเอง ดอกเบี้ยที่คุณจ่ายแก่ฮิบโปเถคทุกเดือน
สามารถจะนำมาหักภาษีได้ด้วย
หักภาษีจากการซื้อบ้าน Belastingaftrek
ภาษีที่หักจากการมีบ้านเป็นของตัวเองนี้ เรียกว่า hypotheekrenteaftrek หักออกจากดอกเบี้ยค่าจำนองบ้าน โดยคุณจะมีส่วนลดภาษีจากตรงนี้ไม่น้อยทีเดียวล่ะค่ะ เรียกได้ง่ายๆว่า รัฐบาลช่วยคุณในการผ่อนบ้าน
การมีบ้านก็เท่ากับมีทรัพย์สินขึ้นมา เป็นเสมือนรายได้ จึงต้องทำการเสียภาษี ที่เมืองไทยก็มี เรียกว่าภาษีโรงเรือนไงคะ
การนับบ้านซื้อของเราเป็นรายได้นี้ เราต้องจ่ายในฐานะที่ซื้อบ้านนี้ เรียกว่า eigenwoningforfait
ราคาค่าของบ้านี้จะขึ้นอยู่กับ WOZ-waarde (Waardering Onroerende Zaken)
โดย Gemeente จะเป็นคนกำหนด และคุณมีหน้าที่จ่ายภาษีตรงส่วนนี้ ทุกๆ สองปีและคาดว่าจะเป็นทุกปีในเวลาใกล้ๆนี้
เมื่อบ้านเป็นรายได้ คุณที่ยังผ่อนบ้าน จึงมีรายจ่ายจากรายได้ตัวนี้ ให้นำมาขอหักภาษี โดยในปีแรกจะมีค่าใช้จ่าย financieringskosten
เช่น เงินค่าจำนอง ค่าบริการที่จ่ายให้แก่โนตาริสในการออกเอกสารกู้จำนอง ค่าคำร้องขอเอกสารการันตีเพื่อกู้เงิน
Nationale Hypotheek Garantie ค่าใช้จ่ายทีเกิดขึ้นครั้งเดียวนี้ สามารถนำมาหักลดภาษีได้ เช่นเดียวกับตัวเงินค่าผ่อนบ้าน หักลบได้เป็นระยะเวลาตามที่ผ่อน แต่จะได้เท่าไหร่นั้น คุณสามารถอ่านในโบรชัวร์ของทางสรรพากรได้ที่ www.belastingdienst.nl ค่ะ
ประกันบ้าน Woonverzekering
แน่นอน ในประเทศที่อะไรๆ ก็มีประกันค้ำไว้ การมีบ้านอยู่อาศัย จะขาดการประกันไม่ได้ แต่ทั้งนี้บ้านที่เช่า และบ้านที่ซื้อมาเป็นของตัวเอง มีประกันไม่เหมือนกัน
Brandverzekering ประกันไฟไหม้
แม้ว่าชื่อจะตรงๆ แต่ประกันนี้ยังครอบคลุมไปถึงอุบัติภัยอื่นนอกจากไฟไหม้ด้วย นั่นก็คือพายุ ระเบิด ฟ้าผ่า ความเสียหายจากควัน อาจจะมีส่วนแยกย่อยลงไปอีกแล้วแต่บริษัทประกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่รวมมหันตภัยทางธรรมชาติอันได้แก่ น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว กัมมันตภาพรังสี
ภายใต้ชื่อประกัน Brandverzekering อาจจะมีประกันย่อยสองตัวนี้รวมอยู่ด้วย
1. Opstalverzekering หมายถึงประกันตัวอาคารเอง
ประกันชนิดนี้ ได้แก่การประกันกระจก(แตกร้าว เสียหาย) ประกันฐานของบ้าน ประกันไฟไหม้ ผู้ที่ซื้อบ้านเองทุกคนจะต้องทำประกันตัวนี้ สำหรับบ้านเช่า บริษัทผู้ให้เช่าบ้าน จะเป็นผู้รับผิดชอบประกันส่วนนี้ไปค่ะ โดยอาจจะบวกเข้าในค่าเช่าบ้านรายเดือนเรียบร้อยแล้ว
ในบางบริษัทบ้านเช่า อาจจะกำหนดให้ผู้เช่าอาศัยเป็นผู้จ่ายค่าประกันกระจก (ซึ่งผู้เช่าสามารถทำรวมไปกับประกัน inboedelverzekering ได้)
2. Inboedellverzekering ประกันข้าวของในครัวเรือน
ประกันชนิดนี้มีค่าเบี้ยประกัน ขึ้นอยุ่กับมูลค่าทรัพย์สินที่ทำการประกัน นอกจากสิ่งของที่อยู่ภายในบ้านแล้ว สัตว์เลี้ยงก็ยังรวมเข้าไปด้วย เช่นเดียวกับจักรยาน(ยนต์) รถลาก หรือยานพาหนะด้วย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันนั้นๆ
Top